โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ทั่วโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2566 โดยการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าได้รับแรงหนุนจากการที่ปัญหาขาดแคลนชิปเริ่มคลี่คลายลง
ทั้งนี้ ยอดการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย.อยู่ที่ 5.06 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และทำสถิติสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
ส่วนยอดขายรถยนต์โดยรวมทั่วโลกในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย.ทำสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.17 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เมื่อแยกเป็นภาคส่วนพบว่า ยอดขายภายในประเทศเพิ่มขึ้น 33.8% แตะที่ 790,168 คัน และยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5.5% แตะที่ระดับ 4.38 ล้านคัน
โตโยต้าระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งยอดขายและยอดการผลิตทั่วโลกทะยานขึ้นเหนือหลัก 5 ล้านคันในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน ขณะที่บริษัทตั้งเป้าว่าจะทำยอดการผลิตและยอดขายให้สูงกว่า 10 ล้านคันตลอดปีงบการเงิน 2566 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า
การผลิตรถยนต์ของโตโยต้าได้รับแรงหนุนจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ขณะที่การผลิตในจีนลดลง 7.3% เนื่องจากยอดขายในจีนอ่อนแอลง ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกับบรรดาบริษัทคู่แข่งในจีน
ส่วนยอดขายรถยต์ไฟฟ้าทั่วโลกของโตโยต้าพุ่งขึ้น 7 เท่า แตะที่ 58,984 คันในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. หลังจากบริษัทประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่
สำหรับในเดือนก.ย.เพียงเดือนเดียวนั้น โตโยต้ามียอดการผลิตและยอดขายทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยยอดการผลิตในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 900,919 คัน ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 11.6% แตะที่ 921,308 คัน