นางเอ็นโกซี โอคอนโจ อิเวียลา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) เตือนว่า การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก หากสงครามลุกลามเป็นวงกว้างขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ผู้อำนวยการ WTO ให้สัมภาษณ์กับนายมาร์ติน ซุง ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันนี้ นอกรอบการประชุม G7 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโอซากาของญี่ปุ่น โดยกล่าวว่า "หากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสลุกลามบานปลายออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของตะวันออกกลาง ก็จะมีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน"
"อย่าลืมว่าภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นแหล่งพลังงานของโลก โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ซึ่งพลังงานเหล่านี้ถูกส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น หากสงครามลุกลาม ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าทั่วโลก ซึ่งเราได้แต่ภาวนาและตั้งความหวังว่าความขัดแย้งนี้จะไม่ลุกลาม และสันติภาพจะเกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากในขณะนี้การค้าทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว จากภาวะอุปสงค์ชะลอตัวลงเป็นวงกว้าง" นางโอคอนโจ อิเวียลา กล่าว
WTO คาดการณ์ว่า การขยายตัวของมูลค่าการค้าทั่วโลกในปี 2566 จะอยู่ที่ 0.8% ในปี 2566 ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% และคาดว่ามูลค่าการค้าทั่วโลกในปี 2567 จะขยายตัว 3.3% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม
"การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดนั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ เนื่องจากจีนเผชิญกับวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่เศรษฐกิจในสหภาพยุโรปชะลอตัวลงมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐนั้น แม้ภาพรวมยังถือว่าดี แต่สหรัฐก็ยังคงเผชิญกับวิกฤตเงินเฟ้อ และมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง" ผู้อำนวยการ WTO กล่าว
การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ เปิดฉากขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ส่งผลให้กองทัพอิสราเอลตอบโต้ด้วยการถล่มฉนวนกาซาทางอากาศ และวางแผนที่จะใช้ปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ เพื่อกำจัดกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก