นักลงทุนในตลาดการเงินจับตากระทรวงการคลังสหรัฐซึ่งจะประกาศเกี่ยวกับแผนการเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาลในวันนี้ (1 พ.ย.) โดยแม้ว่าการเปิดประมูลพันธบัตรจะเกิดขึ้นเป็นปกติในสหรัฐ แต่นักลงทุนจับตาแผนการประมูลในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ตัวเลขหนี้สิน, การขาดดุลการคลัง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นอย่างมาก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงการคลังอาจจะเปิดประมูลพันธบัตร ตราสารหนี้ และตั๋วเงินคลังจำนวนมากในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อระดมทุนในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ แต่การดำเนินการดังกล่าวอาจจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นอีก และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้น
ที่ผ่านมานั้น ทั้งตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นมีความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไปในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน ด้วยเหตุนี้ การเปิดเผยแผนการประมูลพันธบัตรในวันนี้จึงคาดว่าจะได้รับความสนใจจากตลาดมากกว่าในครั้งที่ผ่านมา
จอช เอมมานูเอล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนจากบริษัทวิลไชร์กล่าวว่า "ความจริงก็คืออุปทานและอุปสงค์ในตลาดในขณะนี้ไม่สอดคล้องกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าการเปิดเผยแผนการประมูลพันธบัตรในวันนี้มีความสำคัญมากกว่าผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ แต่ผมคิดว่าทั้งสองเหตุการณ์มีความสำคัญมากพอ ๆ กันในขณะนี้"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า แผนการประมูลพันธบัตรและผลการประชุมเฟดในครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดท่าทีของสหรัฐว่าจะจัดการกับตัวเลขหนี้สินที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้อย่างไร โดยกระทรวงการคลังสหรัฐจะประกาศแผนการประมูลพันธบัตรในเวลา 08.30 น.ของวันพุธ (1 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ และจากนั้นเฟดจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเวลา 14.00 น.ของวันเดียวกันตามเวลาสหรัฐ