สื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า จีนส่งสัญญาณสนับสนุนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นในการประชุมทางการเงินครั้งสำคัญซึ่งสิ้นสุดเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.)
การประชุมด้านการเงินดังกล่าวซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้งในรอบ 10 ปีมีแนวโน้มเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายระยะยาว ซึ่งจะปูทางไปสู่การดำเนินงานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
"ผู้กำหนดนโยบายเน้นย้ำว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งของภาคเอกชนและของภาครัฐ ต่างจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และความต้องการทางการเงินที่สมเหตุสมผลของพวกเขาก็จะได้รับการตอบสนอง" นางแม็กกี้ เหว่ย นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ (1 พ.ย.)
"ผู้กำหนดนโยบายจะสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวเพื่อแก้ไขหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น และปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นให้เหมาะสม" รายงานระบุ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในปี 2563 รัฐบาลจีนได้เริ่มดำเนินการเพื่อลดการเป็นหนี้ในระดับสูงของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ทรุดตัวลง ท่ามกลางการผิดนัดชำระหนี้ของบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และยอดขายบ้านที่ลดลง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้ผ่อนคลายข้อจำกัดในการซื้อบ้าน และพยายามให้การสนับสนุนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการก่อสร้างอะพาร์ตเมนต์ให้แล้วเสร็จ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีการขายอะพาร์ตเมนต์ก่อนการก่อสร้างแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินในทันทีแก่ภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน โดยมีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจน้อยลง
"ในด้านอสังหาริมทรัพย์นั้น พวกเขาให้คำมั่นจะตอบสนองความต้องการทางการเงินจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างสมเหตุสมผล เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ประชุมไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดที่ว่า บ้านมีไว้เพื่ออยู่อาศัย ไม่ใช่มีไว้เพื่อเก็งกำไร" นายแลร์รี หู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนและทีมงานจากแมคควอรีระบุในบันทึกที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.)