ตลาดหุ้นเอเชียเปิดอ่อนแรงลงในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นายพาวเวลกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า เจ้าหน้าที่เฟดยังไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงมากพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าภารกิจในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น และเฟดอาจจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมาย
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของอังกฤษและสหรัฐในวันนี้ โดยทางการอังกฤษจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 (ประมาณการเบื้องต้น), การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และดุลการค้าเดือนก.ย.
ทางด้านมหาวิทยาลัยมิชิแกนมีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันนี้
-- กองทัพอิสราเอลยืนยันว่า อิสราเอลไม่ได้ตกลงที่จะมีการหยุดยิงในขณะที่ทางกองทัพยังคงใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่จะอนุญาตให้มีการพักการสู้รบเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า อิสราเอลได้เห็นพ้องที่จะพักการสู้รบทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเป็นเวลา 4 ชั่วโมงทุกวันเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม โดยจะเปิดทางให้ชาวปาเลสไตน์อพยพหนีภัยสงครามไปยังตอนใต้ของฉนวนกาซา
-- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 3/2566 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายยารักษาโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.73 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 1.149 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.147 หมื่นล้านดอลลาร์
-- สำนักข่าว NHK รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะจัดการเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันที่ 16 พ.ย. นอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ผู้นำ 21 ชาติของเอเปคจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดดังกล่าวในระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.
-- ตลาดจับตาทิศทางราคาบิตคอยน์อย่างใกล้ชิด หลังจากราคาบิตคอยน์ผันผวนอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) โดยราคาพุ่งทะลุ 37,000 ดอลลาร์ในช่วงแรก ก่อนที่จะดิ่งหลุดจากระดับ 36,000 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา
รายงานระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นในช่วงแรกนั้น มาจากการคาดการณ์ที่ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) จะให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในไม่ช้า
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า SEC มีแนวโน้มให้การอนุมัติจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในสหรัฐ