ข้อมูลจากฟอร์เวิร์ดคียส์ (ForwardKeys) ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ด้านการเดินทางระบุว่า ยอดการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศทั่วโลกลดลงนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปอเมริกา เนื่องจากประชาชนยกเลิกการเดินทางไปตะวันออกกลางและทั่วโลก
ทั้งนี้ ความต้องการเดินทางทั่วโลกลดลงนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ได้สังหารประชาชน 1,400 ราย ในพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และอิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและทางบกในฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเสียชีวิตกว่า 10,000 ราย
โอลิเวอร์ ปอนติ รองประธานฝ่ายวิเคราะห์ของฟอร์เวิร์ดคียส์กล่าวว่า "สงครามครั้งนี้ถือเป็นหายนะ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ใจสลาย และเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติ ซึ่งเราเห็นข่าวเหล่านี้ทุกวันในทีวี สถานการณ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนยกเลิกการเดินทางไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลกด้วย"
ฟอร์เวิร์ดคีส์ระบุว่า ยอดการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศในทวีปอเมริกาลดลง 10% ภายในเวลา 3 สัปดาห์หลังจากกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เมื่อเทียบกับจำนวนตั๋วเครื่องบินที่มีการจำหน่ายในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุโจมตี
ประชาชนในตะวันออกกลางเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 9% ขณะที่ยอดจองเที่ยวบินระหว่างประเทศเพื่อเดินทางไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางลดลง 26% ภายในเวลา 3 สัปดาห์หลังจากกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
ส่วนยอดการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศทั่วทุกภูมิภาคปรับตัวลงโดยเฉลี่ย 5% ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกหลังจากผ่านพ้นช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด