โปรพับลิกา (ProPublica) องค์กรสื่ออิสระที่ไม่แสวงผลกำไร รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (9 พ.ย) ว่า นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้บัญชีส่วนตัวของเขาซื้อหายหุ้นเดียวกันกับที่บริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ กำลังซื้อขาย ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางปฏิบัติที่ขัดแย้งกับจุดยืนของนายบัฟเฟตต์เองในอดีต ที่มองว่ากิจกรรมประเภทนี้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน
โปรพับลิการายงานโดยอ้างเอกสารข้อมูลของกรมสรรพากรสหรัฐ (IRS) ที่รั่วไหลออกมา ซึ่งอ้างว่านายบัฟเฟตต์ ซื้อขายหุ้นในบัญชีส่วนตัวของเขาในไตรมาสเดียวกันหรือไตรมาสก่อนหน้าที่เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ซึ่งเป็นบริษัทของเขา จะเข้าซื้อหรือขายหุ้นเดียวกัน โดยหุ้นที่ถูกซื้อขายในลักษณะนี้รวมถึงหุ้นของบริษัทต่าง ๆ เช่น เวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo), จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) และวอลมาร์ท (Walmart) โดยกรณีที่อ้างถึงนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2552 และ 2555
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายบัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีและนักลงทุนระดับโลก วัย 93 ปี เคยกล่าวว่าเขามีบัญชีส่วนตัวที่แยกต่างหากจากพอร์ตการลงทุนของเบิร์กเชียร์ ฮาทาเวย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ แม้เบิร์กเชียร์ ฮาทาเวย์จำเป็นต้องเปิดเผยการถือครองของตนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐในทุกไตรมาส แต่รายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีส่วนตัวของนายบัฟเฟตต์และขนาดของการถือครองส่วนใหญ่นั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
"ผมพยายามหลีกเลี่ยงอะไรก็ตามที่อาจขัดแย้งต่อเบิร์กเชียร์" นายบัฟเฟตต์ กล่าวในระหว่างการประชุมประจำปีของบริษัทเมื่อปี 2559
ทั้งนี้ เบิร์กเชียร์ ฮาทาเวย์ ยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อรายงานดังกล่าว