โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นที่ว่าภาวะเลวร้ายที่สุดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.6% ในปี 2567 ตามค่าเฉลี่ยรายปี ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่คาดว่าจะขยายตัว 2.1% โดยสหรัฐมีแนวโน้มจะขยายตัวมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ อีกครั้ง โดยขยายตัว 2.1%
ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์เชื่อว่า แรงฉุดจากนโยบายคุมเข้มทางการเงินและการคลังนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบเข้มงวดมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังเงินเฟ้อพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ย. นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ออกมาแสดงความไม่มั่นใจว่าเฟดได้ดำเนินการเพียงพอแล้วหรือไม่ในการสกัดเงินเฟ้อ พร้อมระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนถึงครึ่งหลังของปี 2567 เว้นเสียแต่ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอกว่าที่มีการประมาณการไว้
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ระบุด้วยว่า เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงแบบต่อเนื่องในกลุ่มประเทศ G10 และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และมีแนวโน้มจะลดลงอีก
"นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2567 หลังเริ่มลดลงในปีนี้ โดยเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มจะลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 3% สู่ระดับเฉลี่ยที่ 2-2.5% ในกลุ่มประเทศ G10 ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น" โกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงาน