บริษัทที่ปรึกษา เบน แอนด์ คอมพานีเปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าหรูหราทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นไม่มากนักในไตรมาส 4 โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังยุโรปนั้นเป็นปัจจัยหลักสำหรับยอดขายสินค้าหรูหรา ขณะที่นักชอปในท้องถิ่นก็คุมเข้มการใช้จ่าย
"ยอดขายสินค้าหรูหราในยุโรปเชื่อมโยงกับกระแสนักท่องเที่ยว" นางเฟเดริกา เลวาโต ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญจากเบน แอนด์ คอมพานีกล่าวถึงการจับใช้สอยสินค้าไฮเอนด์ในยุโรป พร้อมชี้ว่า นักชอปในท้องถิ่นได้ลดการใช้จ่ายลง หลังจากที่ตลาดสินค้าหรูหราเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 ปีหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นางเลวาโตระบุว่า ชาวอเมริกันยกเลิกทริปการเดินทางไปยังยุโรปในช่วงแรก ๆ ที่สงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเริ่มต้นขึ้น รวมถึงยกเลิกทริปบางส่วนในช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันดูเหมือนว่ากลับมาเป็นปกติแล้ว
ตามรายงานครึ่งปีของเบน แอนด์ คอมพานีนั้น ยอดขายสินค้าของใช้ส่วนตัวทั่วโลกซึ่งรวมถึงเสื้อผ้า เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มีแนวโน้มทรงตัวในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนในไตรมาสที่ 3 นั้น ยอดขายลดลง 3% อ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
สำหรับสถานการณ์ที่เป็นไปได้ในปี 2567 นั้น เบน แอนด์ คอมพานีคาดการณ์ว่า ยอดขายจะเติบโตระหว่าง 1%-4% ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ซึ่งหากมีแนวโน้มในแง่ดีมากขึ้น การเติบโตอาจขยายสู่ระดับ 7% โดยการกลับมาของกระแสนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มว่าจะแซงหน้าอุปสงค์ของนักชอปในท้องถิ่น
ยอดขายสินค้าหรูหราในกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลในปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8% ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ แตะที่ระดับ 3.62 แสนล้านยูโร (3.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากการใช้จ่ายในสหรัฐและยุโรปกลับมาสู่ระดับที่เป็นปกติมากขึ้น หลังจากที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
นางเลวาโตเปิดเผยอีกว่า ชาวจีนซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนการเติบโตในเอเชีย อาจกลับมาขับเคลื่อนการเติบโตในยุโรปได้อย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปีหน้า โดยในตอนนี้ชาวจีนใช้จ่ายไปแล้ว 40% ของระดับในปี 2562 ในยุโรป