บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ขายตราสารหนี้สกุลเงินเยนเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะยกเลิกการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้ปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) อายุ 10 ปี ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า BOJ อาจจะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และอาจจะทำให้บริษัทต่าง ๆ เช่น เบิร์กเชียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทต่างชาติรายใหญ่ที่ออกหุ้นกู้สกุลเงินเยนนั้น เผชิญกับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
นอกจากเบิร์กเชียร์จะเป็นหนึ่งในบริษัทต่างชาติรายใหญ่ที่สุดที่ออกหุ้นกู้สกุลเงินเยนแล้ว บริษัทยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นญี่ปุ่นด้วย โดยเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นายบัฟเฟตต์ประกาศเพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง รวมถึงมิตซูบิชิ คอร์ป และอิโตชู คอร์ป ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นไปอย่างคึกคัก และช่วยหนุนให้ดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี
รายงานระบุว่า การออกหุ้นกู้สกุลเงินเยนโดยบริษัทต่างชาติยังคงเป็นไปอย่างคึกคักแม้ว่า BOJ ประกาศปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค.
ทั้งนี้ บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินเยนเช่นเบิร์กเชียร์นั้น จะได้ประโยชน์จากการระดมทุนในรูปสกุลเงินเยน เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ