นักวิเคราะห์คาดอินเดียคุมส่งออกข้าวถึงปีหน้า หนุนราคาข้าวพุ่งขึ้นอีก

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก จะยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าวจนถึงปีหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ราคาข้าวพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 2551 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตอาหารโลก

ในช่วงที่ผ่านมานั้น ราคาข้าวที่ปรับตัวลดลงและสต็อกข้าวที่มีปริมาณมากได้ทำให้อินเดียกลายเป็นหนึ่งผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ของอุปทานข้าวทั่วโลก ขณะที่หลายประเทศในแอฟริกาคือผู้ซื้อรายใหญ่อันดับต้น ๆ เช่น เบนินและเซเนกัล

อย่างไรก็ตาม นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียซึ่งจะลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในปีหน้า ได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวหลายครั้ง เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาข้าวในประเทศและคุ้มครองผู้บริโภคชาวอินเดีย

"ตราบใดที่ราคาข้าวในประเทศยังคงเผชิญกับช่วงขาขึ้น รัฐบาลอินเดียก็มีแนวโน้มที่จะยังคงใช้มาตรการควบคุมนี้ และหากราคาข้าวภายในประเทศยังไม่มีเสถียรภาพ แม้ว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว ก็คาดว่ารัฐบาลจะยังคงมาตรการนี้ต่อไปอีก" นางโซนาล วาร์มา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำอินเดียและเอเชียของโนมูระกล่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อินเดียบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีส่งออกข้าวและกำหนดราคาขั้นต่ำ โดยข้าวบางประเภทเช่น ข้าวหักและพันธุ์ข้าวขาวที่ไม่ใช่บาสมาติ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งออก มาตรการนี้ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในเดือนส.ค. และทำให้กลุ่มประเทศที่เปราะบางที่สุดระงับการซื้อข้าวจากอินเดีย และบางประเทศได้ขอเลื่อนการชำระค่าข้าวออกไปก่อน ขณะที่จากรายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่าในเดือนต.ค.ปีนี้ ราคาข้าวยังคงสูงกว่าปีที่แล้วถึง 24%

ด้านนายบี.วี. กฤษณะ ราว ประธานสมาคมผู้ส่งออกข้าวของอินเดียกล่าวว่า รัฐบาลของนายโมดีต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่ามีอุปทานข้าวเพียงพอในประเทศและควบคุมราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะคงมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวจนกว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า