ราคาหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ปิดพุ่งขึ้น 2.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนวานนี้ (20 พ.ย.) ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ (21 พ.ย.)
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 3 ของอินวิเดียอาจพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 172% แตะที่ระดับ 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า อินวิเดียอาจจะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเกือบ 200% ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทจับตาผลประกอบการของบริษัทอินวิเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเฟื่องฟูในปีนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ราคาหุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 245% แล้วในปีนี้ แซงหน้าหุ้นของบริษัทอื่น ๆ ในดัชนี S&P500 ขณะที่มูลค่าตลาดของอินวิเดียในขณะนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ และเทสลา
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 ซึ่งอินวิเดียเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น บริษัทระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.351 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.122 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ อินวิเดียคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2567 จะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.261 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่ายอดขายจะพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 170% ในไตรมาสดังกล่าวเมื่อเทียบเป็นรายปี
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดและแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของอินวิเดียสะท้อนให้เห็นว่า หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของอินวิเดียได้กลายมาเป็นปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยชิป AI รุ่น A100 และ H100 ของอินวิเดียถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสร้างแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ AI เช่น แชตบอต ChatGPT ของบริษัทโอเพนเอไอ