สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 4.1% สู่ระดับ 3.79 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.90 ล้านยูนิต
ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และยอดขายที่ลดลง 4.1% ดังกล่าว ถือเป็นยอดขายที่ร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2553
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 14.6% ในเดือนต.ค.
ยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และสต็อกบ้านในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งทำให้ราคาบ้านพุ่งขึ้น
สต็อกบ้านในตลาดลดลง 5.7% สู่ระดับ 1.15 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี
นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยของบ้านเพิ่มขึ้น 3.4% สู่ระดับ 391,800 ดอลลาร์
เมื่อพิจารณายอดขายบ้าน และสต็อกบ้านในตลาด พบว่า ผู้ขายบ้านต้องใช้เวลา 3.6 เดือนในการขายบ้านจนหมดสต็อกในตลาด เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.4 เดือนในเดือนก.ย.