บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 4.02 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.37 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.812 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.618 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ยังคงเฟื่องฟู
อินวิเดียคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 อาจอยู่ที่ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่ารายได้จะเติบโตขึ้นเกือบ 231%
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นอินวิเดียร่วงลง 1% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ย.) หลังจากบริษัทคาดการณ์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 เนื่องจากมาตรการควบคุมการส่งออกที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายในประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ
"เราคาดว่ายอดขายของเราในประเทศเหล่านี้จะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 แม้เราเชื่อว่าการปรับตัวลงนี้จะได้รับการชดเชยโดยการเติบโตที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอื่น ๆ ก็ตาม" นายโคเลตเต เครสส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอินวิเดียกล่าว
นายเครสส์ยังกล่าวด้วยว่า อินวิเดียกำลังทำงานร่วมกับลูกค้าบางรายในตะวันออกกลางและจีน เพื่อให้ได้ใบอนุญาตจากสหรัฐสำหรับการขายผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา อินวิเดียเปิดเผยว่าบริษัทอาจจะถูกบีบให้ต้องถอนธุรกิจบางส่วนออกจากหลายประเทศที่อยู่ในขอบข่ายของมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของสหรัฐ หลังจากคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศขยายมาตรการควบคุมการส่งออกชิปที่ทันสมัยและเครื่องมือผลิตชิปไปยังประเทศอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากจีน ซึ่งรวมถึงอิหร่านและรัสเซีย
อินวิเดียระบุว่า กฎระเบียบใหม่ของสหรัฐอาจจะกระทบความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์บางส่วนให้แล้วเสร็จได้ทันเวลา อีกทั้งส่งผลกระทบต่อการบริการลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และอาจสร้างความเสียหายต่อการบริการจัดส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคที่อยู่นอกภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ คณะบริหารของปธน.ไบเดนประกาศแผนระงับการส่งออกชิป AI ให้กับจีน ซึ่งชิป AI ที่ทันสมัยเหล่านี้ออกแบบโดยบริษัทอินวิเดียและบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ของสหรัฐ