นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 สหรัฐได้บังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ โดยกฎระเบียบเหล่านี้ส่งผลให้มีการควบคุมการขนส่งมากกว่า 6,000 รายการ รวมมูลค่าสินค้ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจนถึงเดือนก.ย. ซึ่งเป็นเดือนล่าสุดที่ศุลกากรสหรัฐเปิดเผยข้อมูล
จากข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย.พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของรายการสินค้าได้ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศสหรัฐ หรือกำลังอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติ โดยสินค้ามากกว่า 2 ใน 3 ที่ถูกปฏิเสธคือสินค้าจากมาเลเซียหรือเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกแผงโซลาร์เซลล์และชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ไปยังสหรัฐ
เฉพาะในเดือนก.ย. สินค้าที่ถูกส่งไปยังสหรัฐมูลค่า 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศหรืออยู่ระหว่างรอตรวจสอบ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากจากมูลค่าน้อยกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนส.ค. โดย 90% เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
นับตั้งแต่มีการใช้กฎระเบียบใหม่ สินค้ามูลค่าประมาณ 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากมาเลเซียและเวียดนามต่างถูกสหรัฐปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศหรือถูกตรวจสอบ ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าจีนเกือบสามเท่า
แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของการค้ากับสหรัฐ แต่เฉพาะในเดือนส.ค.เพียงเดือนเดียว มูลค่าการส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์จากมาเลเซียและเวียดนามไปยังสหรัฐรวมกันมีมูลค่ามากกว่า 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หน่วยงานศุลกากรสหรัฐยังไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นจากสำนักข่าวรอยเตอร์
ทั้งนี้ ซินเจียงเป็นผู้ผลิตฝ้ายและโพลีซิลิคอนรายใหญ่ ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบของแผงโซลาร์เซลล์และชิปเซมิคอนดักเตอร์