แบรนด์อาหารและสินค้าจากชาติตะวันตกถูกคว่ำบาตรจากชาวอาหรับ หลังกองทัพอิสราเอลเดินหน้าถล่มฉนวนกาซานับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์โจมตีพื้นที่ทางภาคใต้ของอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แบรนด์สินค้าตะวันตกต่างรู้สึกถึงผลกระทบในอียิปต์และจอร์แดน อีกทั้งยังมีสัญญาณว่าการรณรงค์คว่ำบาตรแบรนด์สินค้าตะวันตกจะแพร่กระจายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ ด้วย เช่น คูเวตและโมร็อกโก โดยร้านแมคโดนัลด์และเชนร้านอาหารจานด่วนตะวันตกอื่น ๆ ในกรุงไคโรเมืองหลวงของอียิปต์ต่างก็ไร้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ
รายงานระบุว่า บริษัทตะวันตกบางแห่งนั้นถูกมองว่าสนับสนุนอิสราเอล และบางแห่งถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ทางการเงินกับอิสราเอลหรือลงทุนในอิสราเอล โดยหลังจากที่มีการรณรงค์ให้คว่ำบาตรบริษัทและผลิตภัณฑ์ตะวันตกหลายสิบแบรนด์แล้ว ประชาชนชาวอาหรับก็ได้เปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นแทน
ในอียิปต์ ประชาชนแทบไม่มีโอกาสรวมตัวชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเนื่องจากรัฐบาลบังคับใช้มาตรการจำกัดด้านความมั่นคง ดังนั้น การคว่ำบาตรสินค้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการแสดงจุดยืนต่อต้านการโจมตีฉนวนกาซา
ในจอร์แดน กลุ่มต่อต้านสินค้าตะวันตกได้บุกไปยังร้านแมคโดนัลด์และสตาร์บัคส์เพื่อโน้มน้าวให้ร้านเหล่านี้ย้ายไปทำธุรกิจที่อื่น โดยนายอาห์หมัด อัล-ซาโร แคชเชียร์ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในกรุงอัมมานเมืองหลวงของจอร์แดนระบุว่า "ไม่มีใครซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้" โดยลูกค้าต่างเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ท้องถิ่น
เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 21 พ.ย. ในกรุงคูเวต ซิตี้เมืองหลวงของคูเวต ร้านแมคโดนัลด์และเคเอฟซีต่างไม่มีผู้เข้าใช้บริการ ส่วนพนักงานร้านสตาร์บัคส์ระบุว่า แบรนด์อื่น ๆ ของสหรัฐก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ในกรุงราบัตเมืองหลวงของโมร็อกโก พนักงานที่ร้านสตาร์บัคส์สาขาหนึ่งเล่าว่า จำนวนลูกค้าลดลงอย่างชัดเจนในสัปดาห์นี้
ด้านแมคโดนัลด์ คอร์ปแถลงในเดือนต.ค.ว่า รู้สึกผิดหวังต่อข้อมูลเท็จเกี่ยวกับจุดยืนของบริษัทในประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยเจ้าของธุรกิจแมคโดนัลด์ในอียิปต์ได้ประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือฉนวนกาซาเป็นเงิน 20 ล้านปอนด์อียิปต์ (650,000 ดอลลาร์สหรัฐ)