ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (23 พ.ย.) ว่า สิงคโปร์จะออกกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการด้านคริปโทเคอร์เรนซี โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เสนอขึ้น
"ข้อเสนอที่ผ่านการปรึกษาหารือนั้นรวมถึงรายละเอียดในการดำเนินธุรกิจและมาตรการการเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภค" ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุ
มาตรการดังกล่าวจะรวมถึงการป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการคริปโทเคอร์เรนซีในสิงคโปร์รับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่ออกในประเทศ, ห้ามไม่ให้เสนอสิ่งจูงใจในการซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ และการจัดหาเงินทุน มาร์จิน หรือธุรกรรมอื่น ๆ สำหรับลูกค้ารายย่อย โดยมาตรการที่สรุปได้แล้วนั้นจะเริ่มบังคับใช้เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่กลางปี 2567
หน่วยงานกำกับดูแลจะออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เช่น กำหนดให้ผู้ให้บริการคริปโทเคอร์เรนซีเปิดเผยนโยบาย ขั้นตอน รวมถึงหลักเกณฑ์ที่ใช้สำหรับควบคุมการแสดงรายการโทเคนชำระเงินดิจิทัล และจะต้องกำหนดขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพในการจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้าและแก้ไขข้อขัดแย้งต่าง ๆ
นายโฮ เฮิร์น ชิน รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายกำกับดูแลทางการเงินของธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าวว่า ผู้ให้บริการโทเคนการชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment Token หรือ DPT) จำเป็นจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่ใช้แพลตฟอร์มและบริการของตน
"แม้ว่าการดำเนินธุรกิจที่นำเสนอและมาตรการเข้าถึงผู้บริโภคเหล่านี้สามารถช่วยบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันลูกค้าจากการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากการเก็งกำไรและลักษณะของการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยงสูง" นายโฮกล่าว
"เราขอแนะนำให้ผู้บริโภคระมัดระวังอย่างสูงสุดเมื่อใช้บริการโทเคนการชำระเงินดิจิทัล และไม่ใช้บริการจากองค์กรที่ไม่ได้รับการกำกับดูแล รวมถึงองค์กรที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ" นายโฮกล่าวเสริม
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสิงคโปร์เน้นย้ำหลายต่อหลายครั้งว่าการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง และไม่เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป เนื่องจากราคาคริปโทฯ มีความผันผวนและมีการเก็งกำไรสูง