อะโดบี อะนาไลติกส์ (Adobe Analytics) เปิดเผยตัวเลขประมาณการเบื้องต้นว่า ยอดการใช้จ่ายทางออนไลน์ในวันไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday) ในสหรัฐจะพุ่งขึ้นทำสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากบรรดานักชอปพากันตอบรับข้อเสนอลดแลกแจกแถมจากบริษัทที่จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ตุ๊กตาบาร์บี้ไปจนถึงชุดของเล่นเลโก้ หูฟัง และสมาร์ตวอตช์
ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของอะโดบี อะนาไลติกส์ซึ่งไม่นับรวมเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 8.8% จากระดับ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันไซเบอร์มันเดย์ปีที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทค้าปลีกได้พยายามโน้มน้าวบรรดานักชอปในสหรัฐที่มีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อให้ยอมนำเงินออกมาจับจ่ายในวันไซเบอร์มันเดย์ ด้วยการส่งการแจ้งเตือน (notifications), ส่งข้อความ และลงโฆษณาทางวิดีโอสตรีมมิ่ง เพื่อชักชวนให้ซื้อเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น เสื้อผ้า และสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่กระหน่ำลดราคา
ทั้งนี้ การเสนอโปรโมชั่นดังกล่าวประสบผลสำเร็จ โดยอะโดบี อะนาไลติกส์ระบุว่า นักชอปในสหรัฐใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าทางออนไลน์มูลค่า 8.3 พันล้านดอลลาร์ ณ เวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ (27 พ.ย.) หรือประมาณ 06.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ (28 พ.ย.) โดยตัวเลขดังกล่าวได้จากการติดตามข้อมูลผ่านทาง "Experience Cloud " ของอะโดบี ซึ่งเป็นบริการสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ขณะเดียวกันอะโดบีคาดการณ์ว่า ยอดการชอปปิงในช่วงนาทีสุดท้ายจะอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาประมาณ 18.00-23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์
นักวิเคราะห์และนักลงทุนจับตายอดขายในช่วงเทศกาล 5 วันของสหรัฐอย่างใกล้ชิดซึ่งเริ่มตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้าไปจนถึงวันไซเบอร์มันเดย์ เพื่อประเมินภาพรวมของฤดูการจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันหยุด
ทางด้านสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (NRF) ของสหรัฐคาดการณ์ว่า นักชอปในสหรัฐจะใช้จ่ายในปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว โดยคาดว่ายอดขายในช่วงเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 3% - 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี