ธนาคารกลางอิสราเอลได้เปิดเผยรายงานการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส โดยระบุว่าความเสียหายจากสงครามครั้งนี้จะอยู่ที่ 1.98 แสนล้านเชเกล หรือ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการใช้จ่ายทางทหารมากกว่าครึ่งหนึ่ง
ตัวเลขประมาณการล่าสุดนี้ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของบริษัทลีดเดอร์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.80 แสนล้านเชเกล ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลระบุว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจในแต่ละวันขณะนี้อยู่ที่ระดับเกือบ 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ทีมวิจัยของธนาคารกลางอิสราเอลยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้และปีหน้าจะขยายตัวเพียง 2% ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.3% ในปี 2566 และขยายตัว 2.8% ในปี 2567
การเปิดเผยรายงานดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ธนาคารกลางอิสราเอลประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2549 และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกัน
การตรึงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ธนาคารกลางวิตกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะกดดันค่าเงินเชเกล และทำให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ สกุลเงินเชเกลแข็งค่าขึ้นหลังจากธนาคารกลางอิสราเอลประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้