ราคาหุ้นไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ดีดตัวขึ้นกว่า 9% หลังจากมีรายงานว่าศาลฮ่องกงได้เลื่อนการพิจารณาคดีคำร้องเพิกถอนกิจการของเอเวอร์กรีนออกไปอีกครั้ง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผู้พิพากษาลินดา ชาน แห่งศาลสูงฮ่องกง ประกาศเลื่อนการพิจารณาคดีของเอเวอร์แกรนด์เป็นครั้งที่ 2 โดยล่าสุดได้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 29 ม.ค. 2567 จากเดิมที่มีกำหนดจะพิจารณาคดีในวันนี้ (4 ธ.ค.) โดยผู้พิพากษาชานระบุว่า เอเวอร์แกรนด์จะต้องทำแผนปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 29 ม.ค. 2567 มิเช่นนั้น บริษัทมีแนวโน้มที่จะต้องเลิกกิจการ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ท็อป ไชน์ (Top Shine) ซึ่งเป็นนักลงทุนในบริษัทฟางเชอเป่า (Fangchebao) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอเวอร์แกรนด์ ได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนกิจการของเอเวอร์แกรนด์ แต่เนื่องจากเอเวอร์แกรนด์กำลังอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ คำร้องดังกล่าวจึงถูกระงับไว้
เจ้าหน้าที่ได้เข้ายึดคฤหาสน์หรู 2 หลังในฮ่องกงของนายหุย กาหยั่น ประธานบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปเมื่อไม่นานมานี้ โดยคฤหาสน์ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัย "เดอะพีก" (The Peak) ที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง และมีมูลค่ามากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (192 ล้านดอลลาร์)
เอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญกับคำร้องให้เพิกถอนกิจการ และมีเวลาจนถึงวันที่ 29 ม.ค. 2567 ที่บริษัทจะต้องทำแผนปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ มิเช่นนั้น บริษัทมีแนวโน้มที่จะต้องเลิกกิจการ
ทั้งนี้ ทรัพย์สินหลักของเอเวอร์แกรนด์ในฮ่องกงซึ่งได้แก่สำนักงานใหญ่และที่ดินในเขตชนบทจำนวนมหาศาล ได้ถูกเจ้าหนี้ยึดไปเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง