บริษัทหลายแห่งของเวียดนามกำลังพิจารณาที่จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐเพื่อเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทส่วนใหญ่ที่ให้ความสนใจเข้าทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐได้แก่บรรดาสตาร์ตอัปของจีน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทวินฟาสต์ (VinFast) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเวียดนามได้ประเดิมการทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐในเดือนส.ค.ปีนี้ ผ่านการร่วมทุนกับบริษัทแบล็ก สเปด แอคควิซิชัน (Black Spade Acquisition) ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการควบรวมกิจการโดยเฉพาะ (SPAC) และจากนั้นไม่นาน บริษัทวีเอ็นจี (VNG) ซึ่งเป็นยูนิคอร์นด้านเทคโนโลยีของเวียดนามได้เข้าทำ IPO ในตลาด Nasdaq โดยผลิตภัณฑ์ของวีเอ็นจีครอบคลุมถึงเกม เทคโนโลยีด้านการเงิน (ฟินเทค) และบริการสตรีมมิงดนตรี
จอห์น แอนเนลล์ หุ้นส่วนของบริษัทเออาร์ซี กรุ๊ปซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า "วินฟาสต์นำร่องบริษัทเวียดนามเข้าทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐ บริษัทแห่งนี้กำลังส่งสัญญาณว่า แม้เผชิญกับมาตรการควบคุมด้านทุน แต่การเข้าทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐก็ยังมีความเป็นไปได้"
ข้อมูลจากเรเนซองส์ แคปิตอลระบุว่า หลังจากตีตี โกลบอล (Didi Global) ซึ่งเป็นบริษัทจีนที่ให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถโดยสารตีตีชูสิง (DiDi Chuxing) ประสบความล้มเหลวในการทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อปี 2564 คณะกรรมการ SEC ได้ระงับแผนการทำ IPO ของบริษัทจีนเกือบทั้งหมด พร้อมทั้งระบุว่ามีบริษัทจีนเพียง 1 แห่งจากทั้งหมด 20 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ที่สามารถระดมทุนได้มากกว่า 50 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ล่าสุดสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบบริษัทชีอิน (Shein) ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่นออนไลน์รายใหญ่ของจีนเกี่ยวกับกรณีการบังคับใช้แรงงาน หลังจากชีอินได้ยื่นเรื่องต่อ SEC เพื่อขอทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐ
ชีอินซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2555 ได้พยายามทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี แต่ก็เผชิญอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าบริษัทบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์เพื่อผลิตเสื้อผ้าและของใช้ภายในบ้านที่มีราคาถูก