สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนพ.ย.ของจีนลดลง 9.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ เนื่องจากสต็อกน้ำมันในประเทศอยู่ในระดับสูง, สัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ และคำสั่งซื้อจากกลุ่มโรงกลั่นอิสระลดลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้อุปสงค์อ่อนแอลง
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเดือนพ.ย.ของจีนอยู่ที่ระดับ 42.445 ล้านตัน หรือ 10.33 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และลดลงจากระดับ 11.53 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค.
ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ปีนี้ จีนนำเข้าน้ำมันดิบทั้งสิ้น 515.65 ล้านตัน หรือ 11.27 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอของจีน ซึ่งรวมถึงภาคการผลิตและภาคการก่อสร้างนั้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำมันดีเซลและยางมะตอย และหลักฐานล่าสุดที่ตอกย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างของจีนนั้น คือการที่มูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากมีเสถียรภาพเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. โดยระบุถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ GAC ระบุว่า ยอดส่งออกเชื้อเพลิงกลั่นของจีนในเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 5.08 ล้านตัน เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 5.17 ล้านตัน และลดลง 17% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 6.14 ล้านตัน