ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงตลาดหุ้นคาดการณ์ว่า ในปี 2567 นี้ นักลงทุนในตลาดหุ้นจีนจะเข้าซื้อหุ้นปลอดภัย (defensive sectors) หรือหุ้นที่สามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี หลังจากตลาดหุ้นจีนทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในโลกติดต่อกัน 3 ปีซ้อน
หุ้นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มปลอดภัยและคาดว่าจะได้แรงซื้ออย่างคึกคักในปีหน้านั้น ได้แก่หุ้นกลุ่มสุขภาพ กลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ กลุ่มบริษัทส่งออกชิ้นส่วนสำคัญสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่มการผลิตที่ทันสมัย และหุ้นของบริษัทข้ามชาติ เช่นพีดีดี โฮลดิ้งส์ (PDD Holdings)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มตลาดหุ้นจีนในปีหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์จากหลายสำนักซึ่งรวมถึงมอร์แกน สแตนลีย์ และโกลด์แมน แซคส์ ต่างก็คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีกว่าดัชนี S&P500 ของตลาดหุ้นสหรัฐ
นายหวัง ชิง ประธานบริษัทเซี่ยงไฮ้ ฉงหยาง อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า "หลังจากที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เราก็ได้ลดการลงทุนในหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อวัฏจักรเศรษฐกิจมหภาค และขณะนี้เรากำลังหันไปซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัยที่ให้เงินปันผลสูง เช่นกลุ่มนวัตกรรมทางการแพทย์ซึ่งสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และกลุ่มการผลิตที่ทันสมัยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน"
ดัชนี CSI300 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพในตลาดหุ้นจีน ร่วงลงไปแล้วกว่า 12% นับตั้งแต่ต้นปี 2566 สวนทางกับดัชนีหุ้นโลกที่ดีดตัวขึ้น 15% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และตลาดมีความกังวลมากขึ้นหลังจากมูดี้ส์ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่เชิงลบ จากมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ยังคงมีมุมมองที่สดใสต่อแนวโน้มตลาดหุ้นจีน โดยกำหนดเป้าหมายของดัชนี CSI300 ไว้ที่ระดับ 4,200 จุดภายในสิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 23% จากระดับปิดของวันจันทร์ที่ 11 ธ.ค.ที่ระดับ 3,419 จุด และในทางกลับกัน โกลด์แมน แซคส์คาดว่าดัชนี S&P500 จะเพิ่มขึ้นไม่ถึง 2% ภายในสิ้นปี 2567