อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโมร็อกโกในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง แม้ว่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อเดือนก.ย.ก็ตาม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกล่าวว่า การจองตั๋วท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวลดน้อยลงไปบ้างเพราะได้รับผลกระทบจากสงครามในฉนวนกาซา
การท่องเที่ยวคิดเป็น 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโมร็อกโก ขณะเดียวกันภาคการท่องเที่ยวยังเป็นแหล่งดึงดูดเงินสกุลต่างประเทศที่สำคัญของโมร็อกโก โดยกระทรวงการท่องเที่ยวโมร็อกโกคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งหมดในปี 2566 จะอยู่ที่ 14 ล้านคน โดยยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 13.2 ล้านคน
ในปี 2565 โมร็อกโกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 11 ล้านคน และในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศนั้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนโมร็อกโกมากถึง 13 ล้านคน
นางฟาติม-ซาห์รา อัมมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวโมร็อกโก กล่าวว่า "สัญญาณทุกอย่างบ่งชี้ว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวทะลุ 14 ล้านคนภายในสิ้นเดือนธ.ค."
นางอัมมอร์ กล่าวว่า โมร็อกโกตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนประเทศ 17.5 ล้านคนภายในปี 2569 ด้วยการเปิดตัวเส้นทางการบินใหม่ นอกจากนี้ โมร็อกโกตั้งเป้าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 26 ล้านคนในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2573 ซึ่งโมร็อกโกจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันร่วมกับสเปนและโปรตุเกส
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภาคการท่องเที่ยวของโมร็อกโกเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนก.ย. ซึ่งทำลายบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่เทือกเขาแอตลาส แม้ว่าเมืองมาร์ราเกซ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งสำคัญของโมร็อกโกจะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ก็ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในท้องถิ่น
ด้านนายฟาวซี เซมรานี ผู้จัดการบริษัททัวร์ในเมืองมาร์ราเกซ กล่าวว่า ธุรกิจในเมืองมาร์ราเกซฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่มีการจัดการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกเมื่อเดือนต.ค. แต่ธุรกิจเริ่มซบเซาอีกครั้ง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสปะทุขึ้น