กลุ่มบริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital ? VC) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดการณ์ว่า การระดมทุนจะเพิ่มขึ้นในปี 2567 แต่บรรดาบริษัทเทคโนโลยีต้องชี้แจงถึงแนวทางที่เป็นไปได้และชัดเจนในการสร้างผลกำไร
ทั้งนี้ กูเกิล, เทมาเส็ก และเบนแอนด์คอมปะนีระบุในรายงานว่า อุปสรรคมหภาคระดับโลก เช่น เงินเฟ้อ และต้นทุนด้านเงินทุนที่อยู่ในระดับสูงได้ฉุดให้ระดมทุนของภาคเอกชนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ข้อมูลจากเคพีเอ็มจี (KPMG) ระบุว่า การลงทุนของกลุ่ม VC ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกลดลงสู่ 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2566 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2560 ขณะที่ ในไตรมาส 2/2566 การลงทุนของกลุ่ม VC ในภูมิภาคอยู่ที่ 2.42 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกันเคพีเอ็มจีระบุว่า ปริมาณการลงทุนและการทำข้อตกลงในระดับโลกก็แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปีเช่นกัน โดยการลงทุนระดับโลกของกลุ่ม VC ในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2559 ส่วนปริมาณการทำข้อตกลงอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2562
"ผมเชื่อว่าปีหน้าสถานการณ์ด้านการลงทุนของกลุ่ม VC จะกระเตื้องขึ้น" นายเผิง ที อง ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการบริษัทมังกส์ ฮิลล์ เวนเจอร์ส์ (Monk?s Hill Ventures) ระบุ
ส่วนนายยุสซี ซาโลวารา ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการประจำเอเชียของบริษัทแอนต์เลอร์ (Antler) แสดงการคาดการณ์ว่า การลงทุนของกลุ่ม VC จะกระเตื้องขึ้นในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 2567
กูเกิล, เทมาเส็ก และเบนแอนด์คอมปะนีระบุในรายงานว่า เงินทุนพร้อมใช้ของกลุ่ม VC เพิ่มขึ้นสู่ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนมีความรอบคอบมากขึ้นในการเลือกลงทุน
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า กรณีนี้แสดงให้เห็นว่ามีเงินทุนพร้อมใช้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในขั้นต่อไป แต่การจะดึงดูดเงินทุนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้นั้น เหล่าบริษัทเทคโนโลยีจำเป็นต้องแสดงให้นักลงทุนเห็นว่า บริษัทมีแนวทางที่เป็นไปได้และชัดเจนในการสร้างผลกำไร