ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ประเมินว่า JN.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของไวรัสโอมิครอน BA.2.86 กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วประเทศสหรัฐในช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปี โดยขณะนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 44% ของยอดการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวในเวลาเพียง 2 สัปดาห์
ขณะที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดในวันอังคารที่ 19 ธ.ค.ให้ JN.1 เป็นไวรัสที่น่าสนใจ (Variants of interest - VOI) เนื่องจากแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก แต่เน้นย้ำว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพโลกในระดับต่ำ
WHO รายงานว่า ปัจจุบัน JN.1 ระบาดใน 41 ประเทศ นำโดยฝรั่งเศส สหรัฐ สิงคโปร์ แคนาดา สหราชอาณาจักร และสวีเดน โดยไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวจะแพร่ระบาดเพิ่มเติมในช่วงฤดูหนาวนี้
ในสหรัฐ นายคาร์ลอส มัลเวสตุตโต รองศาสตราจารย์สาขาโรคติดเชื้อจากศูนย์การแพทย์เว็กซ์เนอร์ประจำมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอระบุว่า ยอดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นปรับปรุงเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และการป้องกันอื่น ๆ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย ลดต่ำลงอย่างมากนับตั้งแต่ผ่านพ้นช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในระดับสูง
"ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกรายที่ผมรักษาที่โรงพยาบาลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีรายใดเลยที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นปรับปรุง" นายมัลเวสตุตโตระบุ
เชนร้านขายยารายใหญ่ เช่น ซีวีเอส (CVS) และ วอลกรีนส์ บู๊ทส์ (Walgreens Boots) พยายามส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยพนักงานในร้านสาขาบางแห่งได้ร้องเรียนเรื่องการถูกกดดันเนื่องจากร้านค้าพยายามชดเชยอุปสงค์วัคซีนที่ลดน้อยลงด้วยการเสนอเงินโบนัสให้กับพนักงานที่สามารถโน้มน้าวให้ลูกค้าฉีดวัคซีนได้
CDC ระบุว่า ณ วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. มีผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเพียงประมาณ 18% ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนรุ่นปรับปรุงปี 2566-67 โดยวัคซีนรุ่นล่าสุดจะช่วยป้องกันการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากไวรัส JN.1 และสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน