ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 43,000 ดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะอนุญาตให้บริษัทหลายแห่งจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ภายในเดือนม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะเป็นการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ครั้งแรกในสหรัฐ
ณ เวลา 23.01 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 2.08% สู่ระดับ 43,012.75 ดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า SEC จะอนุญาตให้บริษัทหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงแบล็คร็อค (BlackRock), วิสดอมทรี (WisdomTree) และแวลคิรี (Valkyrie) จัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ภายในเดือนม.ค.2567
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีนี้ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%
นักวิเคราะห์คาดว่าบิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้ปัจจัยบวกจากปรากฏการณ์ Halving ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.2567
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งแตะ 50,000 ดอลลาร์ในปีนี้ และ 120,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า
บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นทะลุ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.2565 ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และทำให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวอย่างผันผวน โดยได้ทะยานขึ้นมากกว่า 1,000% ในปี 2560 ก่อนที่จะดิ่งลง 74% ในปี 2561 และกลับมาปรับตัวขึ้นในปี 2562-2564 แต่ก็ร่วงลง 64% ในปี 2565 ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวและการล้มละลายในอุตสาหกรรมคริปโท