ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปิดตลาดสิ้นปี 2566 ลดลงประมาณ 10% ซึ่งถือเป็นการลดลงรายปีเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ การปรับลดการผลิต และมาตรการทั่วโลกเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวผันผวนอย่างมากในปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ระดับ 77.33 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปีนี้ ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ระดับ 71.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หากราคาปรับตัวอยู่ที่ระดับดังกล่าว ก็จะทำให้ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดปีนี้ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และทำให้ราคาดิ่งลง
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มร่วงลงในเดือนธ.ค.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันด้วย เนื่องจากความกังวลด้านอุปสงค์ได้บดบังความเสี่ยงด้านอุปทานที่เกิดจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ขณะที่การปรับลดกำลังการผลิตไม่เพียงพอที่จะหนุนราคาให้สูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบลดลงเกือบ 20% แล้วจากระดับสูงสุดของปีนี้
ราคาน้ำมันเคยพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในปีนี้ในเดือนก.ย. หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรได้ตกลงที่จะลดการผลิต ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าอุปสงค์อาจสูงกว่าอุปทาน
นอกจากนี้ มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันด้วย โดยสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้งในวันนี้ (29 ธ.ค.) หลังจากร่วงลง 3% เมื่อวานนี้ เนื่องจากบริษัทเดินเรือจำนวนมากขึ้นเตรียมกลับมาเดินเรือขนส่งในเส้นทางทะเลแดงอีกครั้ง หลังระงับการเดินเรือในเส้นทางดังกล่าวก่อนหน้านี้เพราะเรือขนส่งสินค้าถูกกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนโจมตี