เมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์กออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (31 ธ.ค.) ว่า กบฏฮูตีซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ทำการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งของบริษัทซึ่งมีชื่อว่า "เมอส์ก หางโจว (Maersk Hangzhou) ส่งผลให้ทางบริษัทตัดสินใจระงับการเดินเรือผ่านเส้นทางทะเลแดงเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
กลุ่มกบฏฮูตีได้ยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) เข้าใส่เรือเมอส์ก หางโจวเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) และได้ส่งเรือเล็กจำนวน 4 ลำเข้าประชิดโดยมีเป้าหมายที่จะบุกขึ้นไปบนเรือเมอส์ก หางโจว ส่งผลให้ลูกเรือตัดสินใจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพเรือสหรัฐ จากนั้นไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือสหรัฐได้ยิงเรือเล็กของกลุ่มกบฏฮูตีได้ 3 ใน 4 ลำในพื้นที่ตอนเหนือของทะเลแดง ส่งผลให้เรือเล็ก 3 ลำจมลงและไม่มีผู้รอดชีวิต ส่วนเรือเล็กอีกลำหนึ่งสามารถหนีไปได้
เมอส์กระบุว่า ลูกเรือทั้งหมดของเรือเมอส์ก หางโจว ปลอดภัย และเรือไม่ได้รับความเสียหายหรือถูกไฟไหม้ และสามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่ตอนเหนือของท่าเรือสุเอซ โดยเรือเมอส์ก หางโจว ได้บรรทุกตู้สินค้าจำนวน 14,000 ตู้และเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เรือของเมอส์กถูกโจมตี โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมอส์ก ยิบรอลตาร์ (Maersk Gibraltar) เรือบรรทุกตู้สินค้าของบริษัทเมอส์กได้กลุ่มกบฏฮูตีใช้ขีปนาวุธโจมตีในขณะที่เรือกำลังเดินทางจากเมืองซาลาลาห์ของโอมานไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย
กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เริ่มออกมาเคลื่อนไหวโจมตีเรือบรรทุกสินค้าหลังจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเปิดฉากการทำสงครามเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยกบฏฮูตีอ้างว่าเป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างไร้มนุษยธรรมกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และกดดันให้อิสราเอลยุติการใช้ปฏิบัติการดังกล่าวกับฮามาส พร้อมกับเตือนว่าจะโจมตีเรือทุกลำที่มุ่งหน้าไปยังอิสราเอลโดยไม่สนใจสัญชาติ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา