บรรดาผู้จัดการการเงินของจีนกำลังเร่งสร้างกองทุนเพื่อติดตามดัชนี CSI A50 ที่เพิ่งเปิดตัว โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีดังกล่าวสะท้อนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของจีนและเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอับดับแรก ๆ ได้ดีกว่าดัชนีเกณฑ์มาตรฐานของประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนี CSI300 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพในตลาดหุ้นจีน ปรับตัวลดลง 11% ในปี 2566 และเป็นดัชนีที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกง ขณะเดียวกันดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ซึ่งเป็นดัชนีที่หลายฝ่ายเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด ก็ปรับตัวลงอย่างหนักหน่วงเช่นกัน
อิน จงหลี นักวิจัยจากสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีนกล่าวว่า ดัชนี CSI A50 ซึ่งประกอบด้วยผู้นำจากภาคส่วนต่าง ๆ จำนวน 50 ราย แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานธุรกิจประเภทต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับดัชนี CSI300 และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต พร้อมกล่าวเสริมว่า จีนจำเป็นต้องสร้างดัชนีที่เชื่อถือได้เพื่อสะท้อนถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจของจีนได้ดีขึ้น
ในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลระบุว่า นับตั้งแต่ที่ดัชนี CSI A50 เปิดตัวเมื่อวันอังคาร (2 ม.ค.) บริษัทกองทุนรวมอย่างน้อย 7 แห่ง รวมถึง ฟูลโกล ฟันด์ แมเนจเมนท์ (Fullgoal Fund Management) และอี ฟันด์ แมเนจเมนท์ (E Fund Management) ได้ยื่นลงทะเบียนเพื่อขอเปิดตัวกองทุนที่ติดตามดัชนีใหม่ดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานปัจจุบัน ดัชนี CSI A50 ให้ความสำคัญกับภาคการเงินน้อยลงและมุ่งเน้นไปที่บริษัทด้านการดูแลสุขภาพและพลังงานใหม่มากขึ้น โดยบริษัทสำคัญที่อยู่ในดัชนีดังกล่าวได้แก่ กุ้ยโจว เหมาไถ (Kweichow Moutai), เจียงซู เหิงรุ่ย เมดิซีน (Jiangsu Hengrui Medicine) และคอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี (Contemporary Amperex Technology) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่