นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนธ.ค. กองทุนทั่วโลกที่เน้นถือลงทุนในระยะยาว (long-only) ทำสถิติเทขายหุ้นจีนมากที่สุดของปี 2566 เพื่อตอบสนองคำขอจากนักลงทุนที่ต้องการไถ่ถอนการลงทุนและกระจายความเสี่ยงออกนอกประเทศจีน
ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกที่เน้นถือลงทุนในระยะยาวเทขายหุ้นในตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงรวมกันมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธ.ค. ซึ่งนับเป็นเดือนที่มีการเทขายมากที่สุดของปี 2566 และเป็นตัวเลขรายเดือนสูงสุดอันดับ 3
นายกิลเบิร์ต หว่อง นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า "ทั้งคำขอการไถ่ถอนของนักลงทุนและการปรับพอร์ตโฟลิโอของผู้จัดการกองทุนเพื่อลดการลงทุนในจีน เป็นผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออก"
ดัชนี CSI300 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพในตลาดหุ้นจีน ปรับตัวลดลง 11% ในปี 2566 ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลง 14%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นจีนและดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงเป็น 2 ดัชนีที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในปี 2566 เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นใหญ่ด้วยกัน อันเนื่องมาจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงความไม่แน่นอนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ