โฆษกของลาซาด้าออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการปลดพนักงานซึ่งได้เริ่มขึ้นวานนี้ โดยระบุว่า "เรากำลังทำการปรับเปลี่ยนองค์กรในเชิงรุกเพื่อปรับจำนวนพนักงานของเรา และเพื่อให้เรามีความพร้อมมากขึ้นสำหรับแนวทางการทำงานที่คล่องตัวเพื่อรับมือกับความจำเป็นด้านธุรกิจในอนาคตของเรา"
"การปรับเปลี่ยนดังกล่าวถือว่ามีความจำเป็น ขณะที่เราทำการประเมินครั้งใหม่สำหรับความต้องการด้านจำนวนพนักงานและโครงสร้างการดำเนินการ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลาซาด้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นเพื่อรับประกันธุรกิจและพนักงานของเราในอนาคต"
อย่างไรก็ดี ลาซาด้าปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในรอบนี้ในสิงคโปร์ หรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่บริษัทได้ทำการปลดพนักงานก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค.2566
ทั้งนี้ ลาซาด้า ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ได้เริ่มทำการปลดพนักงานวานนี้ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกับบริษัทช้อปปี้และติ๊กต๊อกในตลาดอีคอมเมิร์ซ
แหล่งข่าวระบุว่า พนักงานที่ถูกปลดออกในรอบนี้มีจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งรวมถึงพนักงานในทุกระดับ และทุกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสำนักงานประจำภูมิภาค และมีพนักงานราว 10,000 คน ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่การปลดพนักงานได้เริ่มขึ้นวานนี้ และจะดำเนินไปตลอดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ลาซาด้ามีการดำเนินกิจการในไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์
สำนักข่าว CNA รายงานว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้างในสิงคโปร์บางรายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อทราบว่าตนเองได้ถูกปลดออก โดยกล่าวว่า การปลดพนักงานในรอบนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน และบางรายถึงกับกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม และไม่โปร่งใส ขณะที่บริษัทจ่ายเงินชดเชยต่ำกว่าที่คาดไว้ และต่ำกว่าที่บริษัทคู่แข่ง เช่น ช้อปปี้ และ แกร็ป จ่ายให้แก่พนักงานเมื่อมีการเลิกจ้างในปีที่แล้ว
ด้านสำนักงานอุตสาหกรรมดิจิทัลของสิงคโปร์ (DIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์ที่สนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศ เปิดเผยว่า DIS กำลังทำงานร่วมกับลาซาด้าและหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง โดยจะเสนอโอกาสในการทำงานให้กับพนักงานดังกล่าว