บริษัทเมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์กเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.) ว่า เมอส์กได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 4 ลำจากทั้งหมด 5 ลำที่ติดอยู่ในทะเลแดง โดยสั่งให้หันหัวกลับคลองสุเอซเพื่อเดินทางอ้อมไปทางทวีปแอฟริกาแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ทั้งนี้ กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือที่ล่องผ่านทะเลแดงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่นานมานี้ ซึ่งรวมถึงเรือของเมอส์กเมื่อวันเสาร์ (30 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างภาวะติดขัดให้กับการค้าโลกและสร้างความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อโลกหลังอัตราค่าระวางเรือพุ่งทะยานขึ้น
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. สหรัฐได้จับมือกับพันธมิตรออกปฏิบัติการพิทักษ์เรือพาณิชย์ในทะเลแดง แต่บริษัทขนส่งและเจ้าของสินค้าจำนวนมากก็ยังคงเลือกที่จะให้เรือเดินทางอ้อมไปทางทวีปแอฟริกา แทนการใช้เส้นทางในทะเลแดงเช่นเคย
เมอส์กมีความพยายามที่จะกลับมาใช้เส้นทางทะเลแดงอีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังระงับไปในช่วงสั้น ๆ แต่ในวันอังคารที่ 2 ม.ค. เมอส์กระบุว่า จะให้เรือคอนเทนเนอร์หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางทะเลแดงอีกครั้ง โดยเส้นทางดังกล่าวใช้เพื่อเดินทางเข้าสู่คลองสุเอซเพื่อลดระยะการเดินทางระหว่างเอเชียและยุโรป
แต่เรือจำนวน 5 ลำของเมอส์กที่มุ่งหน้าไปเอเชียได้ตัดผ่านคลองสุเอซจากฝั่งตอนเหนือของทะเลแดงแล้วและกำลังจะล่องไปทางใต้ผ่านเยเมนในช่วงที่มีการประกาศระงับการใช้เส้นทางพอดี ส่งผลให้ลูกเรือและตู้คอนเทนเนอร์อีกหลายหมื่นตู้ติดอยู่กลางทาง
ตารางการเดินเรือของเมอส์กระบุว่า เรือเมอส์ก เจนัว (The Maersk Genoa), เมอส์ก ลอนดรินา (Maersk Londrina), เอบบา เมอส์ก (Ebba Maersk) และเยิร์ตรุด เมอส์ก (Gjertrud Maersk) ซึ่งติดอยู่ในทะเลแดงทางตอนใต้ของท่าเรือเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังแหลมกู๊ดโฮปในวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.)
ส่วนเรือเมอส์ก ยูทาห์ (Maersk Utah) ซึ่งเป็นเรือลำที่ 5 ที่ติดอยู่ในทะเลแดง ยังไม่ได้เปลี่ยนเส้นทาง แต่โฆษกของเมอส์กระบุว่า เรือลำดังกล่าวจะไม่ล่องผ่านเยเมน