การประกาศรับสมัครงานของบรรดาบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีในเดือนธ.ค.และพ.ย. 2566 ลดลงอย่างมาก แม้ว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ จะพุ่งขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) จะอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การประกาศรับสมัครงานที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลบนแพลตฟอร์มลิงด์อิน (LinkedIn) ในเดือนธ.ค. 2566 ลดลง 57% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ลดลง 71% ในเดือนพ.ย. แม้ว่าในช่วงเดือนพ.ย.-เดือนธ.ค.จะเป็นช่วงเวลาที่ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 57% ขณะที่แดเนียล แอดเลอร์ ผู้ก่อตั้ง CryptocurrencyJobs.co ซึ่งเป็นเว็บไซต์ลงประกาศรับสมัครงานด้านสกุลเงินดิจิทัลกล่าวว่า เดือนธ.ค.เป็นหนึ่งในเดือนที่บริษัทคริปโทฯสามารถทำรายได้ได้มากที่สุดในปี 2566
ในช่วงปี 2566 บริษัทคริปโทฯหลายแห่งประกาศเลิกจ้างพนักงาน โดยบริษัทเจมิไน ทรัสต์ (Gemini Trust) และไบแนนซ์ดอตยูเอส (Binance.US) สั่งปลดพนักงาน หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลใช้มาตรการที่เข้มงวดกับบริษัทคริปโทฯ นอกจากนี้ บรรดาบริษัทคริปโทฯยังเผชิญกับปริมาณการซื้อขายที่ตกต่ำเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งกระทบต่อรายได้ด้านการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล อีกทั้งเม็ดเงินลงทุนของกลุ่มธุรกิจร่วมลงทุน (VC) ปรับตัวลดลงอย่างมาก บริษัทสตาร์ตอัปหลายแห่งจึงลงเอยด้วยการเลิกจ้างพนักงาน หรือชะลอการจ้างพนักงานเพิ่มเติมเนื่องจากขาดเงินทุน
อย่างไรก็ดี ราคาสกุลเงินดิจิทัลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเวลานานจะช่วยให้สตาร์ตอัปมีเงินทุนมากขึ้นและเพิ่มการจ้างงานในอนาคต โดยราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในปี 2566