ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ณ เวลา 9.00 น.ของวันนี้ (8 ม.ค.) ตามเวลาญี่ปุ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ทางการตรวจพบผู้เสียชีวิต 70 รายในเมืองวาจิมะและอีก 70 รายในเมืองซูซุ ส่วนที่เมืองอานามิซุพบผู้เสียชีวิต 11 ราย, เมืองนานาโอะพบผู้เสียชีวิต 5 ราย, เมืองโนโตพบผู้เสียชีวิต 2 ราย, เมืองชิกะพบผู้เสียชีวิต 2 รายและเมืองฮาคุอิพบผู้เสียชีวิต 1 ราย
ขณะที่ สถานการณ์หิมะตกทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในวันปีใหม่ โดยสำนักข่าวเอ็นเอชเคระบุว่า ประชาชนควรระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวอาจพังถล่มลงมาทุกเมื่อ หลังต้องรับน้ำหนักจากหิมะ ขณะเดียวกันก็ควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นตลอดเวลาเพื่อป้องกันภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ
สภาพอากศหนาวเย็นทำให้เกิดหิมะตกในจังหวัดอิชิคาวะและพื้นที่อื่น ๆ ของภูมิภาคโฮคุริคุและจังหวัดนีกาตะ โดยหิมะตก 3 ชั่วโมงจนถึงเวลา 6.00 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นส่งผลให้มีหิมะสูง 14 เซนติเมตรในเมืองยูซาวะของจังหวัดนีกาตะ, 5 เซนติเมตรในเมืองฮิมิของจังหวัดโทยามะ และ 1 เซนติเมตรในเมืองซูซุของจังหวัดอิชิคาวะ
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนให้ประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากหิมะเฝ้าระวังเรื่องภาวะติดขัดของระบบคมนาคมขนส่ง, ความเสียหายต่อแหล่งผลิตภาคเกษตรกรรม และหิมะปกคลุมสายไฟฟ้าและต้นไม้ ตลอดจนปัญหาถนนลื่นและอันตรายอื่น ๆ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เหตุหิมะตกหนักครั้งนี้ได้ขัดขวางภารกิจขนย้ายผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวไปยังโรงแรมนอกจังหวัดอิชิคาวะ ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคโควิด-19 ระบาดตามศูนย์อพยพต่าง ๆ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ณ วันอาทิตย์ (7 ม.ค.) ยังมีประชาชนกว่า 28,000 รายที่ยังต้องพำนักอยู่ในค่ายพักพิงแผ่นดินไหว
นอกจากนี้ ประชาชนกว่า 2,300 รายในจังหวัดอิชิคาวะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หลัก ๆ แล้วเป็นผลมาจากถนนที่ชำรุดเสียหายอย่างรุนแรง