สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า มาเลเซียและสิงคโปร์เห็นชอบร่วมกันพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ในรัฐยะโฮร์ ทางตอนใต้ของมาเลเซีย เพื่อดึงดูดการลงทุนและเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายคนและสินค้าระหว่างกัน
มาเลเซียและสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมกันจัดทำข้อตกลงฉบับเต็ม โดยมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียนและการอำนวยความสะดวกให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่การอนุมัติธุรกิจไปจนถึงการตรวจคนเข้าเมือง
"เขตเศรษฐกิจพิเศษนี้จะนำเสนอโอกาสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน" นายราฟิซี รามลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจมาเลเซีย กล่าว พร้อมกับเสริมว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของคนและสินค้าข้ามพรมแดน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจ และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
นายราฟิซีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ได้ลงนามข้อตกลงในพิธีลงนามซึ่งจัดขึ้นที่รัฐยะโฮร์ โดยมีผู้นำของทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน
แถลงการณ์ระบุว่า สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับสองของรัฐยะโฮร์ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. 2565 โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมดในภาคการผลิตของรัฐยะโฮร์
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้เข้าร่วมพิธีเชื่อมทางรถไฟรางเบาระหว่างเมืองยะโฮร์บาห์รูกับสิงคโปร์ ระยะทาง 4 กม.
โครงการนี้มีมูลค่าราว 1 หมื่นล้านริงกิต (2.2 พันล้านดอลลาร์) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2569 โดยจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบนทางเชื่อมระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดผ่านแดนทางบกที่พลุกพล่านที่สุดในโลก