คณะกรรมการด้านบริการทางการเงิน (FSC) ของเกาหลีใต้ได้ตรวจพบว่ามีวาณิชธนกิจรายใหญ่ระดับโลกอีก 2 แห่งกระทำความผิดฐานทำ Naked Short Selling ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ คิดเป็นวงเงินสูงถึง 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย FSC จะดำเนินการลงโทษวาณิชธนกิจทั้ง 2 แห่ง อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อของวาณิชธนกิจดังกล่าวในขณะนี้
FSC ระบุว่า การทำ Naked Short Selling ถือเป็นการละเมิดกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อตลาดหุ้นและบั่นทอนความน่าเชื่อถือของนักลงทุน และ FSC จะดำเนินการลงโทษด้วยการปรับวาณิชธกิจทั้ง 2 แห่ง
ขณะที่นายคิม จู-ฮยุน ประธาน FSC กล่าวว่า "การออกคำสั่งห้ามขายชอร์ตมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบและระบบการซื้อขายในตลาดหุ้น เพื่อสร้างความเท่าเทียมระหว่างนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น เราพบว่ามีวาณิชธนกิจต่างชาติเข้ามาทำ Naked Short Selling ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นเกาหลีใต้"
ในช่วงปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว FSC ลงโทษธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ และบีเอ็นพี พาริบาส์ ด้วยการสั่งปรับเป็นเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านวอน (7.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในความผิดฐานทำ Naked Short Selling
ทั้งนี้ Naked Short Selling หมายถึงการขายชอร์ตหุ้นที่ยังไม่ได้มีการกู้ยืมหุ้นมาก่อนหรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ การขายชอร์ตหุ้นออกไปโดยที่นักลงทุนรายนั้นไม่ได้ถือหุ้นอยู่จริง ซึ่งถือเป็นข้อห้ามตามกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เริ่มเปิดฉากตรวจสอบการขายชอร์ตหุ้นโดยบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่และสาขาของบริษัทต่างชาติตั้งแต่ในเดือนส.ค. 2565 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะคุมเข้มการกำกับดูแลการขายชอร์ต โดยในเวลานั้น ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบการขายชอร์ตหุ้นอย่างครอบคลุม หลังจากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากของเกาหลีใต้ได้ร้องเรียนว่า การขายชอร์ตหุ้นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลงอย่างหนัก