นางแคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐได้ขอให้รัฐบาลอินเดียตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่าข้อกำหนดการนำเข้าเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ใหม่เช่น คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและแท็บเล็ตนั้น จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้าในอนาคต
นางไท่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนอินเดียเป็นระยะเวลา 3 วัน ได้พบปะกับนายปิยุช โกยาล รัฐมนตรกระทรวงพาณิชย์ของอินเดียในกรุงนิวเดลี โดยทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่วีซ่าธุรกิจ ไปจนถึงการเข้าถึงสินค้าปลอดภาษี
แถลงการณ์ร่วมของนางไท่และนายโกยาลระบุว่า แม้ว่าข้อกำหนดการนำเข้าในปัจจุบันจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก แต่นางไท่เน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบออนไลน์แบบครบวงจรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และไม่ให้มีนโยบายใดมาสร้างข้อจำกัดทางการค้าในอนาคต
ในเดือนต.ค. 2566 อินเดียได้ประกาศอนุญาตให้นำเข้าเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ซึ่งเป็นการผ่อนคลายข้อกำหนดก่อนหน้านี้ โดยภายใต้ข้อกำหนดใหม่นี้ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รวมถึงแอปเปิ้ลและซัมซุง จำเป็นต้องลงทะเบียนเข้าระบบสำหรับการจัดการนำเข้า และต้องได้รับการอนุมัติตามมูลค่าของสินค้าที่จัดส่ง และการอนุญาตนี้จะมีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นเดือนก.ย. 2567
นอกจากนี้ อินเดียยังได้พิจารณาคำร้องขอให้ฟื้นฟูการเข้าถึงสินค้าปลอดภาษีบางประเภทอีกครั้ง ผ่านระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร และขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อเร่งกระบวนการและลดขั้นตอนการดำเนินงานที่คั่งค้างอยู่ อินเดียยังได้เรียกร้องให้คณะทำงานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ยกเลิกการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเพิกถอนสถานะปลอดภาษีสำหรับสินค้าส่งออกของอินเดียหลายพันรายการ
ทั้งนี้ ในปี 2565 สหรัฐแซงหน้าจีนขึ้นเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ที่ระดับ 1.3724 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.1469 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564