สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค. 2566 ของอินโดนีเซียลดลง 5.76% แตะระดับ 2.241 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะลดลง 8.1%
ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนธ.ค. ลดลง 3.81% แตะระดับ 1.911 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ส่งผลให้อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าในเดือนธ.ค.ทั้งสิ้น 3.3 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.92 พันล้านดอลลาร์
ส่วนตลอดปี 2566 นั้น อินโดนีเซียมียอดส่งออกอยู่ที่ 2.5882 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 2.919 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565 ขณะที่ยอดนำเข้าอยู่ที่ 2.2189 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 2.3745 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565 ส่งผลให้อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าในปี 2566 อยู่ที่ 3.693 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 5.446 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าและส่งออกของอินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการค้าทั่วโลก โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของอินโดนีเซียนั้น ปรับตัวลดลงอย่างมากในปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงราคาถ่านหิน น้ำมันปาล์ม และแร่นิกเกิล