บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในจีนลดการลงทุนหรือคงระดับการลงทุนไว้เท่าเดิมในปี 2566 และส่วนใหญ่มองไม่เห็นแนวโน้มเชิงบวกสำหรับปี 2567 โดยมีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะดีขึ้น
การสำรวจที่จัดทำโดยหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในประเทศจีน พบว่า บริษัทกว่า 400 แห่งจาก 1,713 แห่ง ได้ลดการลงทุนในจีนในปีที่แล้ว ซึ่งเลวร้ายกว่าการสำรวจครั้งก่อนหน้าเมื่อเดือนต.ค. 2566 เล็กน้อย โดยเวลานั้นบริษัทเกือบ 400 แห่งระบุว่าไม่ได้ลงทุนเลยในปีที่ผ่านมา และมีเพียง 15% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่กล่าวมีการลงทุนเพิ่มขึ้น
รายงานดังกล่าวสนับสนุนข้อมูลก่อนหน้านี้ที่บ่งชี้ว่าบริษัทต่างชาติกำลังสูญเสียความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการฟื้นตัวที่ซบเซาหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้การปราบปรามและการควบคุมจากรัฐบาลยังก่อให้เกิดความกังวลให้กับตลาด และบริษัทในต่างประเทศ
ข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2566 แสดงให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในปี 2566 จนถึงเดือนพ.ย. แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้บริษัทต่างชาติกลับมาก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทเครื่องจักรในญี่ปุ่นเกือบ 40% กล่าวว่าลดการลงทุนลงในปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้า
เจ้าหน้าที่หอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในประเทศจีน กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้การลงทุนลดลงคาดว่าเป็นผลมาจากความท้าทายในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยบริษัทรถยนต์ต่างชาติรวมถึงบริษัทญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในตลาดจีนซึ่งมีการแข่งขันสูง บริษัทเหล่านี้ตามหลังจีนไปไกลในด้านการเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศออกจากตลาดจีนเมื่อปีที่แล้ว