ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก วางแผนที่จะทุ่มเงินมูลค่า 9.3 หมื่นล้านเปโซ (1.7 พันล้านดอลลาร์) เพื่อสร้างพื้นที่จัดเก็บและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารและปรับลดราคา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยลดการสูญเสียผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวและลดการพึ่งพาการนำเข้า โดยตั้งเป้าเพิ่มสต๊อกข้าวและข้าวโพดภายใน 23 วัน
นายฟรานซิสโก ทิว ลอเรล รัฐกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า ฟิลิปปินส์มุ่งเป้ายกระดับการผลิตในฟาร์มและการประมงให้ทันสมัย รวมถึงพัฒนาระบบโลจิสติกส์
นายทิวกล่าวเสริมว่า ผลผลิตในฟาร์มประมาณ 30% สูญเสียไปจากการขนส่งที่ไม่ดี และการลดความสูญเสียดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนของพืชผักที่มีมูลค่าสูงได้มากถึง 15%
ข้อมูลรัฐบาลระบุว่า ฟิลิปปินส์สูญเสียธัญพืชและข้าวโพดหลังการเก็บเกี่ยวจำนวนมากถึง 494,000 เมตริกตันหรือคิดเป็นมูลค่า 1.08 หมื่นล้านเปโซต่อปี
รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะสร้างคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิให้แล้วเสร็จ 47 แห่งภายในเดือนมิ.ย. 2571 ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดวาระของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และเพิ่มขึ้นจาก 268 แห่งที่สร้างขึ้นเมื่อเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญปัญหาราคาข้าวเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน แม้พยายามควบคุมโดยการกำหนดเพดานราคาข้าวในเดือนก.ย. และลดภาษีนำเข้าลงก็ตาม โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 22 เดือน แต่ราคาข้าวปรับตัวขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552