นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอสว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวราว 5.2% ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ในปีดังกล่าวโดยไม่ต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่
"ในปี 2566 เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นและปรับตัวในทิศทางขาขึ้น โดยมีการขยายตัวราว 5.2% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ที่ 5% สำหรับปี 2566"
"ในการสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตนั้น เราไม่ได้พึ่งพาการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ เนื่องจากเราไม่ต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตแค่ในระยะสั้น แต่เผชิญกับความเสี่ยงในระยะยาว" นายหลี่กล่าวในการประชุม WEF เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความเห็นเกี่ยวกับตัวเลข GDP ของนายหลี่ มีขึ้นก่อนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 4/2566 ของจีน และตัวเลข GDP ประจำปี 2566 ในวันนี้
นอกจากนี้ นายหลี่ยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันซึ่งจัดโดยนายคลอส ชวาป ผู้ก่อตั้ง WEF โดยมีผู้บริหารจาก 14 บริษัทข้ามชาติเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย ซึ่งรวมถึงผู้บริหารจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, วอลมาร์ท, อินเทล, โฟล์คสวาเกน และซีเมนส์
ทั้งนี้ นายหลี่กล่าวกับบรรดาผู้บริหารของบริษัทข้ามชาติว่า "การลงทุนในจีนจะให้ผลตอบแทนมหาศาลและมีอนาคตที่ดีกว่า จีนมีความพร้อมที่จะเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังและจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่บริษัทต่างชาติในจีนเผชิญอยู่"
นายไมเคิล เฮอร์สัน นักเศรษฐศาสตร์ด้านจีนจากบริษัท 22V Research กล่าวว่า "นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับตัวเลข GDP อย่างเฉพาะเจาะจง การแสดงความเห็นของนายหลี่มีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดาผู้เข้าร่วมงานในการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส"