นายวินเซนต์ เคลิร์ก ซีอีโอของเมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก เปิดเผยเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) ว่า การหยุดชะงักของการขนส่งทั่วโลกอันเป็นผลจากการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงอาจคงอยู่ไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมอส์กและบริษัทขนส่งรายอื่น ๆ ได้สั่งการให้เรือสินค้าหลายร้อยลำหลีกเลี่ยงการเดินเรือในน่านน้ำทะเลแดง โดยเปลี่ยนไปใช้เส้นทางเดินเรืออ้อมแอฟริกาที่ไกลขึ้นแทน เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว
นายเคลิร์กกล่าวในการสัมมนารอยเตอร์ส โกลบอล มาร์เก็ตส์ ฟอรัม ณ เมืองดาวอสว่า "สำหรับเราแล้ว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ระยะเวลาในการขนส่งนานขึ้น และอาจทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงักไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน ซึ่งเราหวังว่าจะสั้นกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการหยุดชะงักอาจยาวนานขึ้นได้ เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่อาจคาดเดาทิศทางความเป็นไปได้"
ส่วนดัชนีคอนเทนเนอร์ของดรูว์รี (Drewry) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางทะเล เผยให้เห็นว่า อัตราค่าระวางการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ขณะที่แหล่งข้อมูลด้านการประกันภัยระบุว่า เบี้ยประกันความเสี่ยงจากสงครามสำหรับการขนส่งผ่านทางทะเลแดงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ บรรดาผู้บริหารด้านการธนาคารออกมาแสดงความกังวลว่า วิกฤติดังกล่าวอาจก่อให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งอาจนำไปสู่การชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือแม้กระทั่งเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น
"วิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากการค้าโลกเกือบ 20% มีการขนส่งผ่านช่องแคบบับอัลมันดับ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญที่สุดของการค้าโลกและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทว่ากำลังอุดตันอยู่ในตอนนี้" นายเคลิร์กกล่าว