ผลสำรวจจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของบริษัทญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการสำรวจ มีแผนที่จะทบทวนหรือปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อกิจการ ท่ามกลางแรงผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ ปรับปรุงด้านธรรมาภิบาล
ผลสำรวจดังกล่าวถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า บริษัทญี่ปุ่นกำลังดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อยกเครื่องธุรกิจและเพิ่มมูลค่าของบริษัท
ตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่นจะเพิ่มผลตอบแทนได้กับบรรดาผู้ถือหุ้นผ่านทางการลดการถือหุ้นไขว้ (cross holdings), การซื้อหุ้นคืน และการใช้มาตรการอื่น ๆ
การที่บริษัทจดทะเบียนเกือบครึ่งหนึ่งมีการซื้อขายหุ้นในราคาต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (Book Value) นั้น ตลาดหุ้นโตเกียวจึงต้องเร่งกดดันให้บริษัทเหล่านี้ทำการทบทวนแนวทางการใช้เงินทุน โดยเมื่อวันจันทร์ (15 ม.ค.) คณะกรรมการตลาดหุ้นโตเกียวได้เผยแพร่รายชื่อของบริษัทต่าง ๆ ที่ทางตลาดมีแผนจะผลักดัน เนื่องจากการใช้เงินทุนของบริษัทเหล่านี้อ่อนแอลงอย่างมาก
ทั้งนี้ ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นกำลังรวบรวมแผนหรือพิจารณาแผนการเชิงรุกนั้น ผลสำรวจของรอยเตอร์แสดงให้เห็นว่า บริษัทเหล่านี้ก็มีการพิจารณามาตรการในด้านต่าง ๆ ด้วย โดยในบรรดาบริษัท 104 แห่งที่ได้รับการสำรวจนั้น มีไม่ถึง 1 ใน 3 ที่ระบุว่าพวกเขาจะควบรวมธุรกิจหลักกับบริษัทอื่น ๆ ผ่านทางการควบรวมกิจการและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ขณะที่ประมาณ 1 ใน 4 กำลังมองหาลู่ทางที่จะขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า บริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจรายหนึ่งในอุตสาหกรรมค้าส่งระบุว่า ทางบริษัทกำลังมองหาลู่ทางที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทขั้นปลายน้ำเพื่อผลักดันไปสู่การปรับโครงสร้าง ขณะที่บริษัทอีกแห่งหนึ่งระบุว่ากำลังหาทางเพิ่มขนาดขององค์กรผ่านทางทำธุรกรรม M&A แบบเชิงรุก
ทั้งนี้ นิกเกอิ รีเสิร์ช (Nikkei Research) ได้จัดทำการสำรวจดังกล่าวให้กับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยได้จัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 22 ธ.ค. 2566 จนถึงวันที่ 12 ม.ค. 2567 โดยไม่มีการเปิดเผยรายชื่อของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจ เพื่อให้บริษัทเหล่านี้สามารถแสดงความเห็นได้อย่างอิสระ