สภานิติบัญญัติของเวียดนามอนุมัติกฎระเบียบใหม่ในวันนี้ (18 ม.ค.) ซึ่งจะจำกัดสัดส่วนการถือครองหุ้นสูงสุดที่นักลงทุนสามารถถือครองในธนาคารภายในประเทศ โดยสมาชิกสภามากกว่า 90% เห็นชอบกับการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ดังกล่าวที่มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงของการปั่นหุ้น แต่อาจทำให้การลงทุนในหุ้นธนาคารมีความน่าดึงดูดน้อยลง
ภายใต้กฎระเบียบใหม่ดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนก.ค. นั้น ผู้ถือหุ้นสถาบัน เช่น กองทุนการลงทุนหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญ จะสามารถถือครองหุ้นของธนาคารได้ไม่เกิน 10% ลดลงจากเกณฑ์ปัจจุบันที่ 15%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยถึงการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ของเวียดนาม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2565
รายงานระบุว่า นางเจื่อง หม่าย ลัน มหาเศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงิน 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคาร Saigon Joint Stock Commercial Bank หนึ่งในธนาคารเอกชนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยนางเจื่องมีอิทธิพลต่อการดำเนินงานและควบคุมการตัดสินใจของธนาคารผ่านบุคคลต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ในนามของเธอ
ทั้งนี้ กฎระเบียบใหม่ยังให้อำนาจแก่ธนาคารกลางเวียดนามมากขึ้น ทำให้สามารถดำเนินการแทรกแซงได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่มีการถอนเงินสดจำนวนมากจากธนาคาร หรือหากธนาคารแสดงสัญญาณบ่งชี้ถึงความเสี่ยงจากภาวะวิกฤตในระยะเริ่มต้น