เอกสารที่ยื่นต่อศาลระบุว่า เทอร์ราฟอร์ม แลบส์มีหนี้สินและทรัพย์สินรวมกันอยู่ที่ประมาณ 100-500 ล้านดอลลาร์ ส่วนจำนวนของเจ้าหนี้อยู่ที่ระดับ 100-199 ราย
สำหรับนายโด ควอน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเทอร์ราฟอร์ม แลบส์และถูกสหรัฐและเกาหลีใต้ออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงนักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีนั้น ขณะนี้ยังคงถูกจับกุมตัวอยู่ในประเทศมอนเตเนโกร ในข้อหาเดินทางเข้าประเทศด้วยการใช้หนังสือเดินทางปลอม และมีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลมอนเตเนโกรจะส่งตัวนายควอนให้กับทางการสหรัฐภายในกลางเดือนมี.ค.นี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทั้งสหรัฐและเกาหลีใต้ต่างก็ต้องการให้มอนเตเนโกรส่งตัวนายควอนมารับโทษ ในกรณีการล่มสลายของสเตเบิลคอยน์ TerraUSD และเหรียญลูนา (Luna) ที่นายควอนเป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายกับนักลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเป็นจำนวนเงินสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์
ในเดือนก.ย. 2565 ศาลเกาหลีใต้ออกหมายจับนายควอนในหลายข้อหา ซึ่งรวมถึงการละเมิดกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้ หลังจากเหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD ทรุดตัวลงอย่างหนัก ส่งผลให้เหรียญเทเธอร์ (Tether) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์สกุลใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงหลุดจากมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ และสร้างความเสียหายอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี
ต่อมาในเดือนก.พ. 2566 สำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงรัฐนิวยอร์ก เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายควอนในข้อหาฉ้อโกงนักลงทุน โดย SEC ระบุคำร้องว่า นายควอนได้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม เทอร์ราฟอร์ม แลบส์ และได้มีการพัฒนาเหรียญคริปโทฯ 2 ชนิดซึ่งสร้างความเสียหายต่อตลาดคริปโทฯ ทั่วโลกในปีที่แล้ว นอกจากนี้ นายควอนได้ทำการระดมเงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เดือนเม.ย. 2561 ด้วยการขายสินทรัพย์ดิจิทัลหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่มีการจดทะเบียน