เว็บไซต์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยแพร่รายงานที่ชื่อว่า "IMF Executive Board Concludes 2023 Article IV Consultation with Thailand" โดยระบุว่า คณะกรรมการบริหารของ IMF ได้แสดงความพึงพอใจที่เศรษฐกิจของไทยสามารถฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และชื่นชมทางการไทยที่สามารถรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคไว้ได้ แม้เผชิญกับวิกฤตการณ์หลายด้านก็ตาม
อย่างไรก็ดี IMF มองว่า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน และแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยยังคงไม่แน่นอน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะส่งผลให้ไทยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจขาลง
เมื่อพิจารณาถึงสถานะการคลังที่จำกัดและความอ่อนแอเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานแล้ว คณะกรรมการบริหาร IMF ได้แนะนำให้ทางการไทยเดินหน้าการปรับนโยบายการคลังให้กลับสู่ภาวะปกติในระยะใกล้นี้ ขณะเดียวกันก็ควรดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง เพื่อกระตุ้นขีดความสามารถในการผลิตและการเติบโต และเสริมสร้างเศรษฐกิจให้มีความยืดหยุ่น
คณะกรรมการบริหาร IMF ได้ระบุถึงกรณีที่ทางการไทยประกาศใช้นโยบายระยะสั้นเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ในกรณีนี้ IMF มองว่าไทยควรจะใช้นโยบายด้านการคลังที่เป็นกลาง โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบางผ่านโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคม (Social Safety Nets) และระบบภาษีที่มีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียม
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหาร IMF ยังเห็นด้วยกับทางการไทยในประเด็นที่ว่า การใช้กลยุทธ์ด้านการคลังในระยะกลางจะช่วยให้หนี้สาธารณะลดลง และจะช่วยให้รัฐบาลมีพื้นที่สำหรับการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์และด้านทุน และช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหาร IMF แนะนำให้ทางการไทยดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสนับสนุนการลงทุน กระตุ้นการแข่งขัน และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขจัดความซับซ้อนด้านกฎระเบียบ เพิ่มศักยภาพให้กับแรงงาน และปฏิรูประบบป้องกันสังคม
IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจของไทย โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2567 จะขยายตัว 4.4% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3.6% และเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ IMF ประมาณการว่าจะขยายตัว 2.5%
อย่างไรก็ดี แม้ IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปี 2567 แต่ก็มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในทิศทางที่อ่อนแรงลง อันเนื่องมาจากเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น โดย IMF คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.7% เนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ในกรอบคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย