เทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2566 เนื่องจากรายได้จากธุรกิจรถยนต์ปรับตัวลง ส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาร่วงลงเกือบ 6% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้
เทสลาเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 อยู่ที่ 71 เซนต์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 74 เซนต์ และรายได้อยู่ที่ 2.517 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้น 3% จากระดับ 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2565 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.56 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Margin) ในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 8.2% ลดลงจากไตรมาส 4/2565 ที่ระดับ 16%
ทั้งนี้ เทสลาระบุว่า รายได้ในธุรกิจรถยนต์ที่อ่อนแอลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาขายที่ลดลงโดยเฉลี่ย หลังจากบริษัทได้ปรับลดราคารถยนต์ทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
นอกจากนี้ เทสลาได้กล่าวกับนักลงทุนในระหว่างการแถลงผลประกอบการว่า การเติบโตของยอดขายรถยนต์ในปี 2567 นั้น อาจจะต่ำกว่าในปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ทางบริษัทกำลังเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในรัฐเท็กซัส