ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 ม.ค. ชาวจีนหลายพันล้านรายมีแนวโน้มเดินทางฉลองเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะเป็นการเดินทางครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังชาวจีนสามารถฉลองเทศกาลตรุษจีนได้อย่างอิสระเสรีโดยไม่ต้องถูกมาตรการสกัดโรคโควิด-19 จำกัดเป็นปีแรก
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจีนระบุในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอดการเดินทางในจีนมีแนวโน้มจะแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 9 พันล้านครั้งในช่วง 40 วันของช่วงชุนอวิ้น (chun yun) ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทางเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน โดยประชาชนจะเดินทางไปเยี่ยมญาติ รวมถึงท่องเที่ยวและทำกิจกรรมนันทนาการในช่วงเวลาดังกล่าว
ฟลิกกี้ ทราเวล (Fliggy Travel) ระบุในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอดจองโรงแรมสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ผ่านฟลิกกี้ ทราเวล สูงเหนือระดับปี 2562 แล้ว 160% โดยยอดจองโรงแรมจากกรุ๊ปทัวร์เพิ่มขึ้น 34%
ถงเฉิง ทราเวล (Tongcheng Travel) ระบุในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาเฉลี่ยสำหรับเที่ยวบินในจีนพุ่งสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562
ด้านสายการบินแอร์ ไชน่า ยืนยันในสัปดาห์นี้ว่าได้จัดเตรียมเที่ยวบินเกือบ 1,700 เที่ยวต่อวันในช่วง 40 วันของช่วงชุนอวิ้น ซึ่งเพิ่มขึ้น 32% จากปี 2562 เพื่อให้เพียงพอกับอุปสงค์การเดินทางที่เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า แม้ตัวเลขจากทางการจีนจะบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในภาคคมนาคมขนส่งและหลังจากภาคบริการจัดเลี้ยงอาหารและโรงแรมเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่หนุนให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 5.2% ในปี 2566 แต่ปัจจัยบวกเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นเพียงปัจจัยหนุนระยะสั้นเท่านั้นและไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนตลอดทั้งปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า จีนจำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่การแก้ไขปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ และช่วยเหลือบริษัทเอกชนในการรับประกันว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวเช่นเดิมในปี 2567 หลังอุปสงค์ที่เคยอั้นเอาไว้ช่วงโรคโควิด-19 ระบาดนั้นลดน้อยลงแล้ว