เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแซงหน้าจีนในฐานะประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันยังคงมีความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน (Nominal GDP) ปี 2566 ของสหรัฐขยายตัว 6.3% ขณะที่ Nominal GDP ของจีนในปี 2566 ขยายตัว 4.6% โดย Nominal GDP เป็นมาตรวัดมูลค่าผลผลิตภายในประเทศที่ยังไม่ปรับค่าเงินเฟ้อ
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าเศรษฐกิจจีน
เอสวาร์ ปราสาด ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีมวิเคราะห์เศรษฐกิจจีนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีสถานะที่แข็งแกร่ง สวนทางกับเศรษฐกิจจีนที่เผชิญกับความท้าทายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และทำให้มีโอกาสน้อยลงที่ตัวเลข GDP จีนจะสามารถตีตื้นขึ้นมาแซงสหรัฐได้"
ทั้งนี้ เศรษฐกิจที่ทำผลงานดีเยี่ยมของสหรัฐยังสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในประเทศ โดยดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ ในขณะที่มูลค่าตลาดหุ้นจีนหายไปราว 6 ล้านล้านดอลลาร์